เปิด 3 ปัจจัยหนุนนำ ‘ราคาทองคำ’ ยังไปได้ต่อ

2025-01-14 IDOPRESS

เปิด 3 ปัจจัยหนุนทองคำ ชี้ราคาทองคำยังไปได้ต่อ แนะจับตาเปลี่ยนขั้วการเมืองสหรัฐ

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า ในช่วงต้นปี 2568 นี้ ราคาทองคำได้ค่อยๆ ปรับตัวขึ้น ในกรอบทิศทาง Sideway up และขึ้นไปทำระดับสูงสุดไว้ที่ระดับ 2,698 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งนับว่าไม่ไกลจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เคยทำเอาไว้ที่ระดับ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ โดยสิ่งน่าสังเกตคือ การแกว่งตัวของราคาทองคำในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นไปในทิศทางเดียวกันกับดอลลาร์สหรัฐ จึงเป็นสิ่งที่สะท้อนถึงการเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งกลายมาเป็นกำลังซื้อหลักในการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในช่วงนี้  ทั้งนี้ ยังมีหลายปัจจัยสำคัญที่มากระทบ ดังนี้

1. การกลับเข้าซื้อทองคำต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ของธนาคารกลางจีน (PBOC) โดยได้ทำการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 3.30 แสนทรอยออนซ์ ในเดือน ธ.ค. สู่ระดับการถือครองรวมทั้งสิ้น 73.29 ล้านทรอยออนซ์ หลังจากก่อนหน้านั้นได้หยุดทำการซื้อไป 6 เดือน จึงแสดงให้เห็นว่า PBOC ยังมีความต้องการทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของทุนสำรอง แม้ว่าราคาจะยังย่อตัวลงมาจาก All Time High ไม่มากก็ตาม

2. นักลงทุนเริ่มจับตาต่อความเสี่ยงในการเกิดการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกครั้งใหม่ หลังจากที่ “คริสตาลินา กอร์เกียวา” กรรมการจัดการของ IMF ได้กล่าวว่า “เศรษฐกิจโลกในปี 2568 จะเผชิญกับความไม่แน่นอนสูงจากนโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐ”

3. สิ่งที่ตลาดกำลังจับตามากที่สุดจึงเป็นในช่วงที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังเตรียมเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 20 ม.ค. โดยเฉพาะนโยบาย “การตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้า” ในขณะที่ ในวันนี้ (14 ม.ค.) สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า ทีมเศรษฐกิจของ “โดนัลด์ ทรัมป์” กำลังหารือเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษี “อย่างค่อยเป็นค่อยไป” ซึ่งจะส่งผลช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในอัตราเงินเฟ้อที่อาจพุ่งขึ้นจากนโยบายดังกล่าวได้ จนเป็นหนึ่งในปัจจัยบวกที่สำคัญของทองคำในระยะนี้  นอกจากนี้ นายทรัมป์ ยังได้มีการกล่าวสุนทรพจน์ ที่แสดงความประสงค์ในการควบรวมดินแดนต่างๆ ทั้งแคนาดา ปานามา และกรีนแลนด์ ซึ่งถึงแม้แนวคิดนี้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่ก็ทำให้ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ยังคงเป็นที่จับตามอง

อย่างไรก็ดี ในช่วงการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองนี้ จะเป็นที่น่าจับตาของตลาดอย่างมาก เนื่องจากจะมีกระแสข่าวที่มีความผันผวน อาทิ จากสำนักข่าวCNNที่เคยได้รายงานว่า“โดนัลด์ ทรัมป์”มีแผนที่จะประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจ เพื่อปิดทางใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีในทันที จนเป็นปัจจัยกดดันให้ทองคำผันผวน และถูกขายทำกำไรอยู่ช่วงหนึ่ง

ทั้งนี้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในทองคำช่วงนี้YLGแนะนำสำหรับการเก็งกำไรระยะสั้น ด้วยการหาจังหวะเข้าซื้อที่แนวรับ2,652-2,634ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ และขายทำกำไรระยะสั้นที่แนวต้าน2,684-2,705ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ส่วนทองคำแท่ง96.5%ในประเทศ มองเคลื่อนไหวในกรอบ43,250-44,400บาทต่อบาททองคำ โดยทองคำแท่ง96.5%จะได้อานิสงส์ในเชิงบวกมากขึ้น เนื่องจากได้ปัจจัยหนุนจากราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้น พร้อมการอ่อนค่าของค่าเงินบาท.

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ติดต่อเรา

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 เครือข่ายการศึกษาไทย    ติดต่อเรา  SiteMap