‘Siam Paragon’s Arena of Arts’ รวบรวมงานศิลปะแห่งแรงบันดาลใจที่ทุกคนเข้าถึงได้

2025-01-21 IDOPRESS

สยามพารากอน ก้าวล้ำนำเทรนด์ สู่การกำหนดนิยามใหม่ ‘Luxury for All’ ที่ ‘Siam Paragon’s Arena of Arts’ รวบรวมงานศิลปะแห่งแรงบันดาลใจที่ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม

สยามพารากอน ตอกย้ำความเป็นผู้นำในการรังสรรค์สุดยอดประสบการณ์เหนือความคาดหมาย พร้อมยกระดับสู่การเป็น “Grand Stage of The World” เวทีระดับโลกที่นำเสนอประสบการณ์หลากหลายภายใต้คอนเซ็ปต์ Luxury for All นิยามใหม่ของความลักซ์ชัวรี่ที่มอบให้ทุกคนสามารถเข้าถึงและสัมผัสได้ครอบคลุมในทุกมิติของไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต หลังจากที่ได้ดำเนินการปรับปรุงอาคารตั้งแต่ต้นปี 2567 เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์ลักซ์ชัวรี่ระดับโลก จนถึงวันนี้ได้เสร็จเรียบร้อยจากชั้น G ถึงชั้น 4 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งนอกจากจะเป็นเวทีที่นำเสนอร้าน ICONIC Stores ดีไซน์ล่าสุดของบรรดาลักซ์ชัวรี่แบรนด์และสุดยอดแบรนด์ไทยแล้ว ยังมีการผสมผสานศิลปะที่รังสรรค์มาตามพื้นที่ต่างๆ ของอาคาร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Arena of Arts” เป็นการสนับสนุนให้ผู้คนสามารถเข้าถึงศิลปะที่หลากหลายในรูปแบบของการแสดง Public Arts ที่ร่วมสมัยที่มีการปรับเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดเวลา ยกระดับผลงานของศิลปินไทยให้ทัดเทียมกับศิลปินชั้นนำจากประเทศต่างๆ สู่สายตาผู้มาเยี่ยมชมสยามพารากอนปีละไม่ต่ำกว่า 100 ล้านคน และเป็นการสานต่อการใช้พื้นที่จัดกิจกรรมเพื่อสนับสนุนวงการศิลปะไทย โดยสยามพารากอนเป็นสถานที่ต้นแบบที่จัดงานเชิดชูศิลปินไทยต่อเนื่องกันมาตั้งแต่เริ่มเปิดดำเนินกว่า 20 ปี

ONESIAM โกลบอลเดสติเนชั่นใจกลางมหานครกรุงเทพ ได้แก่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ ได้มุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ (Be Amazed),ได้รับแรงบันดาลใจ (Be Inspired) และเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติวงการ (Be Revolutionary) มาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย โดยเป็นสถานที่แรกที่นำแนวคิดของการเปิดพื้นที่ให้ประสบการณ์ศิลปะได้เข้ามาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผสมผสานเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและไลฟ์สไตล์ที่เข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยเริ่มต้นที่สยามเซ็นเตอร์ ได้คัดสรรผลงานศิลปะจากศิลปินไทย ให้เป็นสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของ “ไทยสร้างสรรค์” (Creative Thais) และในสยามดิสคัฟเวอรี่ รังสรรค์ Art Collaboration ร่วมงานกับศิลปินและนักออกแบบระดับโลกมากมาย อาทิ M/M (Paris) ซึ่งประกอบด้วย Mathias Augustyniak และMichael Amzalag,SOFTlab สตูดิโอออกแบบจากนิวยอร์ก X ECOTOPIA สร้างสรรค์ Installation Art ขนาดใหญ่รูปทรงต้นไม้ เพื่อสื่อถึงนิยามใหม่ของการรักษ์โลก การร่วมงานกับ 7 ศิลปินระดับโลก ได้แก่ Rob Pruitt Tomokazu Matsuyama,Nina Chanel Abney,Kenny Scharf,Friendswithyou,André Saraiva x Mr. A และ AVAF ในโปรเจ็คต์ Peanuts Artist Global Collective ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทย และการเชิญศิลปินกราฟฟิตี้ระดับโลกชาวเกาหลีใต้ Jay Flow มาสร้างสรรค์ สนามบาสใจกลางเมือง เป็นต้น ONESIAM 3 ศูนย์การค้า จึงเป็นสถานที่ที่มอบ “ประสบการณ์แรก” และ แรงบันดาลใจพร้อมความสนุกจากงานศิลปะที่ไม่เหมือนใครทุกยุคสมัยอยู่เสมอ

ในปีนี้ สยามพารากอน ได้ปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่เสร็จแล้ว พร้อมประกาศเตรียมการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 20 ปี ด้วยการเป็น “Grand Stage of The World” เวทีระดับโลกที่นำเสนอประสบการณ์อันเหนือความคาดหมายในมิติต่างๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Luxury for All’ นิยามใหม่ของความลักซ์ชัวรี่ในทุกมิติของไลฟ์สไตล์ การใช้ชีวิต สำหรับคนทุกเพศทุกวัย ทุกอายุ ทุกระดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประสบการณ์อันเหนือระดับไม่ได้ตีกรอบอยู่แค่สินค้าและการช้อปปิ้งอีกต่อไป ซึ่งแน่นอนว่า “ศิลปะ” เป็นอีกนิยามของประสบการณ์ที่มีคุณค่า สยาม พารากอนจึงตั้งใจที่จะเปิดพื้นที่ทั้งอาคารให้เป็น “Arena of Arts” เป็นเวทีที่งานของทุกศิลปินไทยและศิลปิน ทั่วโลกสามารถประลองความงามกันได้ในที่เดียวที่ผู้คนสามารถมาชมและเข้าถึงงานศิลปะได้ง่าย พร้อมหมุนเวียนผลงานใหม่ๆ ตลอดทั้งปี อีกทั้งจะมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับงานศิลปะพร้อมการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้อย่างต่อเนื่อง อีกด้วย

นายสาลวิท สุวิพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่าสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ในทุกโครงการของสยามพิวรรธน์เสมอมา คือการออกแบบประสบการณ์ และ Customer’s Journey ที่สร้างความประทับใจแก่ผู้มาเยือน เป้าหมายสำคัญคือการสร้างพื้นที่ที่เชื่อมโยงผู้คนกับเรื่องราวต่างๆ ของแต่ละโครงการ เป็นการทำ Story Telling ที่ผ่านความงดงามทางสถาปัตยกรรม งานศิลปะ หรือนวัตกรรมต่างๆ ที่สามารถสร้าง Emotional Connection กับผู้คนจนสร้างเป็น Personalized Content ได้ ซึ่งเราภูมิใจว่าสามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุด จนได้รับรางวัลชนะเลิศระดับโลกจากสมาคมและองค์กรต่างๆ มากมาย”

“สำหรับงานศิลปะที่สยามพารากอน เราให้ความสำคัญกับการคัดสรรศิลปินชั้นนำจากหลากหลายประเทศ และเลือกชิ้นงานที่สะท้อนเรื่องราวและความเป็นเอกลักษณ์ของสยามพารากอนอย่างพิถีพิถัน รวมถึงการ Commission งานพิเศษกับศิลปินในการออกแบบผลงานเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเพียงที่สยามพารากอนเท่านั้น โดยเชื่อมั่นว่าทุกการมาเยือนสยามพารากอนคือการเดินทางผ่านประสบการณ์ที่หลากหลาย ซึ่งเราตั้งใจให้ทุกคนได้สัมผัสถึงความเป็นเอกลักษณ์ และความพิเศษที่แตกต่าง ซึ่งพวกเขาสามารถสร้าง Content ที่น่าสนใจจากเรื่องราวของเราได้”

“Siam Paragon’s Arena of Arts”เวทีของผลงานศิลปะร่วมสมัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับสยามพารากอน

ในวันนี้ สยามพารากอนได้บัญญัตินิยามคำว่า “Luxury for All” ด้วยการนำงานศิลปะ 10 ชิ้นงาน ร่วมสมัย มานำเสนอดังนี้ :

ผลงานArt Installation Aurora” โดยศิลปิน visual artist ระดับโลกชาวฝรั่งเศส ปาสคาล ดอมบีส์ (Pascal Dombis) ได้แรงบันดาลใจมาจากแสงเหนือ รังสรรค์ผลงานทรงวงกลมที่ดูคล้าย Color Wheel หรือ วงล้อทฤษฎีสี ด้วยเทคนิคเฉพาะตัวที่การจงใจป้อนข้อมูลให้ระบบอัลกอริทึมในคอมพิวเตอร์เกิดเหตุขัดข้อง เกิดผลลัพธ์เป็นลายเส้นเฉดสี การไล่สีที่ซ้อนกันแบบที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทำให้เกิดวงล้อสีที่งดงามตัดกับความสว่างของท้องฟ้า ชมได้ที่ Skylight ชั้น 5 โซนจีเวล

งาน ดิจิตัล อาร์ต โดยศิลปินชาวฝรั่งเศสผู้บุกเบิกศิลปะแนวดิจิตัลอาร์ตมากว่า 40 ปีMiguel Chevalier (มิเกล เชอวาลิเยร์) นำความล้ำสมัยด้วยการสร้างสรรค์ Interactive Digital Art ที่เคลื่อนไหวตามคนพัฒนา ต่อยอดเป็น 2 ผลงาน อย่าง “Kinetic Waves” และ “Vortex” ที่ชั้น 4 โซน Next Stage

งานประติมากรรมRed Bubble” สร้างสรรค์โดยศิลปินเกาหลีร่วมสมัยDonghoon Oh (โอดงฮุน) ผลงานศิลปะเชิงรูปทรงของทรงกลมที่ถ่ายทอดเป็นรูปทรงมนุษย์ โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการเล่นฟองสบู่ เป็นงานประติมากรรมที่ใช้การสร้างสรรค์ที่ใช้การพัฒนามุมมองที่มีความซับซ้อนอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของศิลปินที่มีความชัดเจนและโดดเด่น สามารถชมได้ที่ ชั้น 1 North Void

คาแร็คเตอร์อาร์ตทอยชื่อดัง“Dylie” (ไดลี่) โดยJWON (เจ วอน) หรือ สรายุทธ คุระแก้ว นักวาดภาพ นักออกแบบคาแรคเตอร์ ซึ่งเป็นศิลปินไทยรุ่นใหม่ไฟแรงได้ครีเอตมาเป็น Tech Toy เพื่อสยามพารากอนโดยเฉพาะ ที่ชั้น 4 โซน Next Tech

ประติมากรรมสำริดCascading Melody” โดยJohn Helton (จอห์น เฮลตัน) ประติมากรชาวอเมริกัน ถ่ายทอดเรื่องราวของความเคลื่อนไหวที่สะท้อนให้เห็นความเชื่อมโยงกันของทุกสรรพสิ่ง ผ่านเส้นโค้งที่นำมาวางตัดกันอย่างงดงาม ซึ่งแต่ละมุมมองก็จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ชั้น M โซน Luxe Hall

ประติมากรรมThe Way it Shapes You” สร้างสรรค์โดยศิลปินชาวเนเธอร์แลนด์Pieter Obels (ปีเตอร์ โอเบลส์) ด้วยการนำความแข็งแกร่งของเหล็กกล้ามาถ่ายทอดเป็นรูปทรงของความอ่อนช้อย และ พลิ้วไหว ที่ชั้น 3 โซน North Void

ประติมากรรมUOY MA I” กับคาแรคเตอร์“น้องมะม่วง” คาแรคที่ดังไกลระดับอินเตอร์โดยการสร้างสรรค์ของ วิศุทธิ์ พรนิมิต ศิลปินไทยชื่อดังที่บอกเล่าเรื่องราวภาพสะท้อนและมุมมองของตัวเราซึ่งมาจากการที่เรามองโลกอย่างไร ชมได้ที่ชั้น 1 ใกล้ Fashion Hall

ประติมากรรม “คิดถึง” โดย นฤทธ์ธรณ์ เศรษฐ์คุณารัฐ ที่สื่อถึง ความเหงาและความเดียวดายของมนุษย์ผ่านรูปทรงที่ถูกตัดทอนแล้ว โดยความรู้สึก อารมณ์ และจินตนาการ ชั้น 3 North Void

ประติมากรรมไม้ “ไม่มาไกลเพื่อถอยหลัง” โดย อินสนธิ์ วงค์สาม ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม) ปี พ.ศ. 2542 ถ่ายทอดแรงบันดาลใจจากการออกเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์สกู๊ตเตอร์ตามลำพัง เพื่อไปยังเมืองฟลอเรนซ์ บ้านเกิดของศ.ศิลป์ พีระศรี ชมได้ที่ ชั้น 2 North Void

ผลงานล่าสุด !! ประติมากรรมพิเศษ ‘THE FUTURE IN OUR HAND’ โดยศิลปินนักออกแบบระดับโลก Jaime Hayon

‘THE FUTURE IN OUR HAND’ เป็นผลงานศิลปะร่วมสมัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟชิ้นพิเศษล่าสุดของ        สยามพารากอน ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่ทันสมัยและแฝงไว้ด้วยคอนเซ็ปต์ที่ให้แนวคิดปรัชญาชีวิตสุดลึกล้ำ ซึ่งเป็นเสน่ห์และเอกลักษณ์ของศิลปินนักออกแบบระดับโลกชาวสเปน Jaime Hayon (ไฮเม่ ฮายอน) ผู้ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 100 ของดีไซเนอร์ยอดเยี่ยมโดยนิตยสาร Wallpaper ทั้งยังได้รับการยอมรับว่าเป็นนักออกแบบที่มีอิทธิพลที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา และได้รับการยกย่องให้เป็นผู้มีวิสัยทัศน์และหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งความคิดสร้างสรรค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของการออกแบบโดยนิตยสาร Times   ด้วยฝีมือและประสบการณ์การทำงานสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่ยอมรับมาเป็นเวลากว่า 25 ปี   โดยในครั้งนี้ Jaime Hayon กล่าวถึงการได้ร่วมทำงานกับสยามพารากอนว่า “นับเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าอย่างยิ่ง ความมุ่งมั่นร่วมกันในด้านความคิดสร้างสรรค์และความเป็นเลิศ ทำให้ความร่วมมือครั้งนี้มีความหมายอย่างลึกซึ้ง”

โดยการรังสรรค์ประติมากรรมชิ้นสำคัญ ‘THE FUTURE IN OUR HAND’ เป็นคอนเซ็ปต์หลักที่ Jaime ถ่ายทอดแนวคิดผ่านผลงานศิลปะชิ้นเอก สะท้อนแนวคิดมุมมองเชิงบวกต่อโลก ทุกคนสามารถสร้างพลังแห่งความหวังและความฝันอันงดงามในอนาคตที่ดีขึ้นได้ โดยออกแบบรูปปั้นวานรใบหน้ายิ้มละมุน แฝงด้วยความถ่อมตนและมีความอบอุ่น ในท่ายืนขนาดความสูง 3.75 เมตร มีไฮไลต์คือ ‘The Reflective Sphere’ ประติมากรรมทรงกลมสีทองที่ส่องแสงระยิบระยับในมือวานร เปรียบเสมือนการสำรวจตัวตนถึงความหวังและความฝันของผู้คนที่สามารถกำหนดอนาคตที่เป็นความจริงได้ด้วยมือของตัวเอง โดยผลงานนี้ Jaime ตั้งใจออกแบบเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมได้ตั้งคำถามกับตัวเอง พร้อมเปิดมุมมองใหม่ต่อความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์และสิ่งแวดล้อม ในช่วงเวลาของการเริ่มต้นรับศักราชใหม่ที่จะช่วยสร้างกำลังใจให้ผู้คนได้มีความสุข และรอยยิ้มเมื่อได้สัมผัสกับประติมากรรมชิ้นพิเศษ ที่สยามพารากอนตั้งใจรังสรรค์ประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้มาเยือนทุกคน โดยศิลปินนักออกแบบระดับโลก Jaime Hayon ได้ให้เกียรติมาร่วมเปิดตัวผลงานประติมากรรมชิ้นพิเศษด้วยตัวเอง

ร่วมสัมผัสประสบการณ์ผ่านสุดยอดผลงานศิลปะภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘THE FUTURE IN OUR HAND’ ที่สยามพารากอนได้ร่วม Co-create กับศิลปินนักออกแบบชื่อดังระดับโลก Jaime Hayon พร้อมด้วยผลงานศิลป์ร่วมสมัยจากเหล่าศิลปินไทยและหลากหลายประเทศได้ทั่วพื้นที่สยามพารากอน และติดตามผลงานการสร้างสรรค์จากศิลปินแห่งชาติและศิลปินระดับโลก ที่จะมาเพิ่มเติมให้ครบ 20 ชิ้น ใน “Siam Paragon’s Arena of Arts”เพื่อเฉลิมฉลองสยามพารากอนครบรอบ 20 ปี ในเดือนธันวาคม ศกนี้อีกด้วย

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ติดต่อเรา

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 เครือข่ายการศึกษาไทย    ติดต่อเรา  SiteMap