2025-04-09 HaiPress
"พิชัย" เผยไทยเตรียม 5 มาตรการเจรจาสหรัฐ ตั้งเป้าสร้างสมดุลการค้าภายใน 10 ปี เล็งขยายเพดานหนี้สาธารณะ เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหากจำเป็น
เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 68 ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมการวางยุทธศาสตร์รับมือมาตรการการค้าสหรัฐ ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เมื่อเช้าวันที่8เม.ย.68ได้มีการมอบหมายให้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นหัวหน้าคณะในการเจรจากับทางอเมริกา พร้อมด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เป็นผู้ร่วมคณะเจรจา มีการประสานนัดหมาย เพื่อทำการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกาและหน่วยงานอื่นๆ ของอเมริกา เพื่อนำเอาข้อเสนอของไทยไปพูดคุย และการประชุมวันนี้ (8เม.ย.68) จะเป็นการติดตามสถานการณ์ เพื่อกำหนดก้าวต่อไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของคนไทยอย่างรอบคอบและแม่นยำ
สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ การวางยุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆ คือ ต้อง“รู้เขา”และ“รู้เรา”วันนี้ เราเห็นนอกจากรูปแบบการตอบโต้ และรับมือต่อนโยบายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐ จากประเทศต่างๆ ว่ามีอะไรบ้าง และยังได้เห็นปฏิกิริยาการเคลื่อนไหวตอบโต้ของประชาชนภายในสหรัฐ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายนี้
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามมาตรการการค้าสหรัฐอเมริกา และแนวทางการเจรจานโยบายการค้ากับสหรัฐอเมริกา เพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกาศขึ้นภาษีไทย 36% ว่า ที่ประชุมได้เตรียม 5 มาตรการ ในการเจรจาสหรัฐ ได้แก่ 1.เพิ่มการนำสินค้า ข้าวโพด เครื่องในสัตว์ 2.ลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐ ที่ไทยเก็บในอัตราที่สูง และเพิ่มโควตานำเข้า 3.แก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคทางการค้า 4.แก้สินค้าที่สวมสิทธิไทยส่งออกไปสหรัฐ และ 5.การหาโอกาสการลงทุนในสหรัฐฯ เช่น การพิจารณาลงทุนด้านการการขนส่งในแหล่งก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ในอลาสก้า หรือการลงทุนแปรรูปสินค้าเกษตรในสหรัฐฯ
“ส่วนเรื่องที่หลายคนกังวลและเร่งรีบให้รัฐบาลเร่งไปเจรจาถึงมาตรการภาษีโดยเร็วนั้น ผมขอเวลาอีกนิดหนึ่งเพราะเราจะต้องประเมินท่าทีของสหรัฐก่อนว่าเขาต้องการอะไร เพื่อหาวิธีที่เป็นประโยชน์ทางการค้านร่วมกัน เพื่อสร้างสมดุลทางการค้าภายใน10ปี ยอมรับว่ามาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐจากไทย กระทบต่อเศรษฐกิจไทยค่อนข้างเยอะ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกของไทย ที่เป็นเครื่องยนต์หลัก ดังนั้นหากมีความจำเป็นในการขยายเพดานหนี้สาธารณะ ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนหนี้อยู่ที่64%จากเพดานหนี้70%เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ เหมือนจีนที่ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ ก็มีแนวทางเป็นไปได้”นายพิชัย ระบุ
ย้ำประชาชนต้องให้ความเชื่อมั่นรัฐบาล หากไม่เชื่อมั่นรัฐบาลนี้จะให้ไปเชื่อมั่นใคร
คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา