2025-04-14 HaiPress
3 สินค้าเกษตรและอาหารที่ต้องพิจารณา หากมีการเจรจากับสหรัฐ ภาครัฐจะเดินต่ออย่างไร?
จากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าประเทศคู่ค้า ก่อนจะชะลอการขึ้นภาษีไว้ 90 วัน ยกเว้นจีน ทำให้สินค้าไทยที่จะได้รับผลกระทบ อาจยังไม่คลายความกังวล โดยเฉพาะสินค้าด้านเกษตรและอาหาร
3 สินค้าเกษตรและอาหารที่ต้องพิจารณา หากมีการเจรจากับสหรัฐ ภาครัฐจะเดินต่ออย่างไร?
1.ถั่วเหลือง หากไทยต้องนำเข้าจากสหรัฐเพิ่มขึ้น ทดแทนแหล่งนำเข้าเดิมอย่างบราซิล
ประเด็นที่ต้องพิจารณา
ราคานำเข้าจากสหรัฐ ต้องแข่งขันกับแหล่งนำเข้าเดิมได้ลดภาษีนำเข้า เพื่อให้ต้นทุนนำเข้าถูกลงกฎหมาย/เงื่อนไขนำเข้า เช่น ห้ามปลูก/นำเข้าพืช GMO
สัดส่วนมูลค่าการนำเข้าของไทยปี 2567 บราซิล 86% สหรัฐ 12% ประเทศอื่นๆ 2%
2.เนื้อหมู หากไทยต้องเปิดตลาดให้มีการนำเข้าจากสหรัฐ ซึ่งมีปริมาณผลผลิตมากกว่าไทย 8 เท่า
ประเด็นที่ต้องพิจารณา
ราคาหมูสหรัฐ ถูกกว่ากฎระเบียบ/เงื่อนไขนำเข้า เพื่อให้ต้นทุนนำเข้าถูกลงมาตรการช่วยเหลือ โดยเฉพาะเกษตรกรรายย่อย ที่มีมากกว่า 1.4 แสนราย (97%)
ปริมาณการผลิตเนื้อหมู ปี 2567 สหรัฐ 12.7 ล้านตัน ไทย 1.6 ล้านตัน
3.TOP 5 สินค้าเกษตร-อาหารที่ส่งออกไปจีน อาจได้รับผลกระทบทางอ้อมจากคำสั่งซื้อชะลอ ดังนี้
ยางและผลิตภัณฑ์ยาง มันสำปะหลัง คำสั่งซื้อเสี่ยงลดลง สะท้อนจากช่วงสงครามการค้ารอบแรก ยอดคำสั่งซื้อสินค้ากลุ่มนี้ลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนไก่สด/แช่เย็น/แช่แข็ง กระทบน้อยกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากไทยได้เปรียบเรื่องคุณภาพและเป็นการผลิตแบบ Made to order
ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ณ 12 เม.ย. 68
คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา