ครบ 10 ปี ภาษีมรดก ช่องโหว่เพียบ เก็บได้แค่ 4 พันล้าน

2025-02-25 HaiPress

10 ปี ภาษีมรดก เก็บได้แค่ 4 พันล้าน เผยช่องโหว่เพียบ คลังเร่งเปิดรับฟังความเห็นทบทวนกฎหมาย หวังหาทางอุดช่องโหว่

รายงานข่าวจากกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ยอดจัดเก็บรายได้จากภาษีการรับมรดก  ซึ่งมีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี 59 จนถึงปัจจุบันปี 68 รวมแล้ว 10 ปี สามารถจัดเก็บภาษีได้รวมเพียง 4,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นยอดรายได้ที่ไม่สูงนักเฉลี่ยปีละ 400-500 ล้านบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการเก็บภาษีมีทิศทางเติบโตขึ้น โดยในปีงบประมาณ 67 สรรพากร จัดเก็บได้กว่า 1,500 ล้านบาท ขณะที่ 3 เดือนแรกของปีงบประมาณ 68  จัดเก็บภาษีการรับมรดกได้แล้วกว่า 600 ล้านบาท  

สำหรับสาเหตุที่มีการจัดเก็บภาษีได้ค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งมาจากผู้เสียให้มรดกมีการบริหารทรัพย์สินล่วงหน้า เพื่อให้เสียภาษีได้ลดลง หรือไม่เสียเลย  ซึ่งในกฎหมายของภาษีมรดก ยังพบมีส่วนยกเว้นค่อนข้างสูง ทำให้เกิดการเลี่ยงภาษีได้ง่าย อาทิ ฐานในการจัดเก็บภาษี ซึ่งปัจจุบันจะจัดเก็บเฉพาะมรดกในส่วนที่มีมูลค่าเกินกว่า 100 ล้านบาทต่อราย หากเกินจะไม่เสียภาษี เช่น บิดาซึ่งเสียชีวิตมีมรดกอยู่ 300 ล้านบาท แบ่งให้ภรรยา 100 ล้านบาท และ ลูก 2 คน คนละ 100 ล้านบาท มรดกดังกล่าว จะไม่มีภาระภาษีเลย เนื่องจากได้รับมรดกไม่เกิน 100 ล้านบาท กรณีภรรยานั้น ไม่ต้องเสียภาษีอยู่แล้ว เนื่องจากกฎหมายให้ยกเว้นเฉพาะคู่สามีภรรยา

ขณะเดียวกัน  หากมรดกเกิน 100 ล้านบาท แต่เป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานของผู้ส่งมอบมรดกได้รับการลดอัตราเสียภาษีมรดกอีกกึ่งหนึ่งเหลือเพียง 5%  นอกจากนี้ทรัพย์สินมรดกที่เข้าข่ายต้องเสียภาษี อาทิ อสังหาริมทรัพย์ หุ้น ตราสารหนี้ เงินฝาก ยานพาหนะที่มีหลักฐานทางทะเบียน ทรัพย์สินทางการเงิน ส่วนมรดกที่ไม่ต้องเสียภาษี เช่น เงินสด ทองคำ เครื่องเพชร พลอย ของสะสมของโบราณ และทรัพย์สินทางปัญญา จึงอาจกลายเป็นช่องว่างให้เกิดการเล่นแร่แปรธาตุกันได้  เช่น เปลี่ยนเป็นเงินสด ทองคำ หรือเครื่องเพชร เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กรมสรรพากรในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบการบังคับใช้กฎหมายนี้ ได้จัดทำการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมานี้ หลังจากได้มีการใช้กฎหมายฉบับนี้มาแล้วระยะหนึ่ง ซึ่งเป็นการดำเนินการตาม พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวบรรลุเป้าหมายในการมีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น การลดความซ้ำซ้อนและขัดแย้งกันของกฎหมาย การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคม โดยจะดูว่าต้องมีการทบทวนกฎหมายดังกล่าวอย่างไร

สำหรับอัตราภาษีที่ใช้ในการคำนวณภาษีการรับมรดก ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษี คำนวณและเสียภาษีในอัตรา 10% ของมูลค่ามรดกในส่วนที่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าผู้ได้รับมรดกเป็นบุพการี หรือผู้สืบสันดาน ให้เสียภาษีในอัตรา 5% ของมูลค่ามรดกสุทธิที่ต้องเสียภาษี

ส่วนทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีการรับมรดก มีดังต่อไปนี้ 1. อสังหาริมทรัพย์ 2. หลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ 3. เงินฝากหรือเงินอื่นใดที่มีลักษณะอย่างเดียวกันซึ่งอยู่ในประเทศไทย ที่เจ้ามรดกมีสิทธิเรียกถอนคืนหรือสิทธิเรียกร้องจากสถาบันการเงินหรือบุคคลที่ได้รับเงินนั้นไว้ 4. ยานพาหนะที่มีหลักฐานทางทะเบียน 5. ทรัพย์สินทางการเงินที่กำหนดเพิ่มขึ้นโดยพระราชกฤษฎีกา 

คำปฏิเสธ: บทความนี้ทำซ้ำจากสื่ออื่น ๆ วัตถุประสงค์ของการพิมพ์ซ้ำคือการถ่ายทอดข้อมูลเพิ่มเติมไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์นี้เห็นด้วยกับมุมมองและรับผิดชอบต่อความถูกต้องและไม่รับผิดชอบใด ๆ ตามกฎหมาย แหล่งข้อมูลทั้งหมดในเว็บไซต์นี้ได้รับการรวบรวมบนอินเทอร์เน็ตจุดประสงค์ของการแบ่งปันคือเพื่อการเรียนรู้และการอ้างอิงของทุกคนเท่านั้นหากมีการละเมิดลิขสิทธิ์หรือทรัพย์สินทางปัญญาโปรดส่งข้อความถึงเรา

ติดต่อเรา

©ลิขสิทธิ์ 2009-2020 เครือข่ายการศึกษาไทย    ติดต่อเรา  SiteMap